รีวิว MINI John Cooper Works Convertible เวอร์ชั่นเปิดประทุน 231 แรงม้า ที่โครงการ For you park bangna

Last updated: 9 มี.ค. 2565  |  1633 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รีวิว MINI John Cooper Works Convertible เวอร์ชั่นเปิดประทุน 231 แรงม้า ที่โครงการ For you park bangna

     MINI คือ แบรนด์ยนตรกรรมที่ทั่วโลกต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งหลายคนก็ตั้งใจเลือกซักรุ่นจาก MINI ให้เป็น Dream Car ระดับเป้าหมายในชีวิตด้วยเหตุผลเพียงเพราะรูปลักษณ์อัน “โดดเด่น” แต่ถ้าพ่วงเรื่องความแรงเข้าไปด้วย Cooper S คือ คำตอบที่ “ใช่” สำหรับปุถุชนทั่วไป

     เว้นว่าถ้าคุณเป็นสาวก MINI “สายลึก” เพราะแน่นอนว่าแค่ Cooper S คง “ไม่พอ” … งั้นต้องไปต่อให้ถึง “นิพพาน” ซึ่งปลายทางที่รออยู่ คือ อักษรย่อ 3 ตัว “JCW หรือ John Cooper Works” ที่ “คนเล่น” ยอมรับ และนับถือ แถมยังมีทางเลือกตัวถังที่หลากหลายกว่าเมื่อก่อน

     หากคุณยังจำได้ว่า JCW ในยุคแรกๆ “ตัวเลือก” มันมีไม่มาก เพราะส่วนใหญ่มักจะมากับตัวถังแบบ “หลังคาปกติ” จนทำให้คนชื่นชอบสายลม และแสงแดด ไม่ปลื้มเท่าไหร่ ฉะนั้นในเจนเนอเรชั่นใหม่ๆ การขยายกลุ่มเป้าหมายที่หลงใหล JCW จึงเกิดขึ้นดังที่เห็น

     ซึ่งนอกจากพระเอกหลักอย่าง 3-Door Hatch ก็ยังมี 2 สไตล์รถอเนกประสงค์ทั้ง Clubman และ Countryman เข้ามาเสริมทัพ แล้ว Mini ก็คงไม่พลาดที่จะนำเอาเวอร์ชั่น Convertible เข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในแผนการดังกล่าวด้วยเช่นกัน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้รักอรรถรสความแรงแบบ JCW ในสไตล์ของรถเปิดประทุน

     และด้วยความเป็นรถเปิดประทุนแบบ Convertible ฉะนั้นขนาดตัวถังจึงมีความกระชับไม่ต่างไปจากรุ่น 3-Door Hatch เท่าไหร่นัก เช่น ความยาวที่ 3,876 มม. ความกว้างที่ 1,727 มม. แล้วก็วางตัวบนความยาวฐานล้อ และความกว้างแทรคล้อเท่าๆ กันที่ 2,495 มม. และ 1,485 มม. ขณะที่ความต่างนั้นมีเพียงหนึ่งเดียวก็คือ “ความสูง” ที่ในรุ่น 3-Door Hatch ระบุไว้ 1,414 มม. ส่วนรุ่น Convertible มากับตัวเลข 1,415 มม. ซึ่งเอาเป็นว่ามัน “ไม่ต่าง” เลยดีกว่า

     เพราะงั้นคงพูดได้ว่า “มิติตัวถัง” ไม่มีอะไรเป็นพิเศษจนสร้างความน่าสนใจได้มากพอ นอกจากความเฉี่ยวในแบบฉบับยนตรกรรมเปิดประทุน Convertible และคงจบเพียงแค่นั้นหากไม่ได้รับการปรุงแต่งใหม่ให้สมฐานะสมาชิกแห่ง John Cooper Works Family ที่ว่ากันตั้งแต่โทนสีของตัวถัง และลวดลาย ที่ส่งเสริมให้รายละเอียดอื่นโดดเด่นขึ้นมา หลักๆ ก็เช่น ชุดแต่ง Aerodynamics, ล้ออัลลอยด์ลาย John Cooper Works Course Spoke 2-tone ขนาด 18 นิ้ว ซึ่งตัดกับชุดคาลิปเปอร์เบรกโทนสีแดง, ชุดไฟท้ายลวดลายธง Union Jack ไปจนถึงหลังคาผ้าใบ Softtop ที่แถมมาด้วยความสะดุดตาจากลวดลายธง Union Jack ขนาดใหญ่ พร้อมความสามารถในการเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าในเวลาเพียง 18 วินาที ขณะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. อีกด้วย

     ภายในภาพรวมยังคงสื่อสารถึงความเป็น MINI ด้วยเส้นสาย “ทรงกลม” ที่สามารถพบเจอได้มากมาย พร้อมการใส่ความสปอร์ตแบบ John Cooper Works เข้าไปเต็มพิกัด ผ่านโทนสีที่เลือกใช้ ไปจนถึงวัสดุที่ให้ทั้งความรู้สึกหรูหรา และสปอร์ต ซึ่งดูแล้วสร้างความเร้าใจได้ดีทีเดียว .ใดๆ ก็ตามสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลายคนอาจมองเป็น “เรื่องใหญ่” เรากลับรู้สึกไม่ซีเรียสอะไรมาก เพราะด้วยความที่เจ้านี่คือ หนึ่งในสมาชิกของ John Cooper Works Family ที่มีไฮไลต์เป็นสมรรถนะการขับขี่

     ฉะนั้นแค่ที่มองด้วยตาเห็นเราว่าก็มากพอแล้วครับ ทั้งจากเครื่องเสียง Harman Kardon, หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว, แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charging), ช่องเชื่อมต่อ USB, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แล้วก็สวิทช์เปิด-ปิดหลังคา เหนืออื่นใด สิ่งที่ยังทำให้เราประทับใจ Mini อยู่เสมอก็คือ “ชุดสวิทช์” ควบคุมใต้หน้าจอคอนโซลกลาง ที่เรายอมรับว่าออกแบบมาได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ จนบางครั้งก็ทำให้คุณลืมว่ากำลังอยู่ในรถ Mini ได้เหมือนกัน

     ส่วนสิ่งที่เติมเต็มสมบูรณ์แบบในฐานะ John Cooper Works Family ก็คือ เครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในอนุกรม จากพิกัด 2.0 ลิตร เบนซิน 4 สูบ พร้อมระบบอัดอากาศ MINI TwinPower Turbo ซึ่งมีกำลังให้ใช้ระดับ 231 แรงม้า และแรงบิดที่มากถึง 320 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด ที่ว่ากันว่าเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 6.5 วินาที แถมด้วยการทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 246 กม./ชม.

     แต่ถ้าทำได้แค่นั้นมันจะไม่ใช่ MINI เพราะทั้งหมดทั้งมวลต้องรวมกันสร้างสไตล์การขับขี่ที่เปรียบได้กับรถโกคาร์ท (G0-Kart) ฉะนั้นช่วงล่าง และการตอบสนองของพวงมาลัย เป็นอีกส่วนสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเวอร์ชั่นสายโหดอย่าง JCW ซึ่งเคล็ดลับก็คือ การติดตั้งช่วงล่างแบบ Adaptive Suspension มาให้ เพื่อขยายขีดความสามารถให้รองรับกับโหมดปรับเปลี่ยนการขับขี่ MINI Driving Modes ไปจนถึงชุดเกียร์ 8 สปีดที่อัพเกรดใหม่ และชุดท่อไอเสียแบบสปอร์ต ประกอบกับชุดพวงมาลัยที่เฉียบคมเป็นทุนเดิม จนได้มาซึ่ง “อัตลักษณ์” ในการขับขี่สไตล์ JCW สำหรับผู้ชื่นชอบอย่างแท้จริง

      เหตุผลที่เราต้องกล่าวแบบนั้นก็เพราะ ในทุกๆ อิริยาบถของการขับเคลื่อนของ MINI JCW มักจะอยู่ตรงข้ามของคนโลกสวยที่หวังจะนำไปใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังที่ค่อนข้างจำกัด รวมไปถึงพื้นที่เบาะนั่งด้านหลังที่มันอาจจะไม่สบายเท่าไหร่นัก ไหนจะหลังคาผ้าใบเปิดประทุนแบบ Softtop ที่แน่นอนว่า “หล่อเหลา” แต่ก็ต้องเหมาเอาจุดด้อยมาด้วย ทั้งในเรื่องของ “อุณหภูมิ” จากแสงแดดเมื่อขับขี่ในยาวกลางวัน ไปจนถึงเรื่องของการ “เก็บเสียง” ที่แม้จะปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่อาจเทียบเท่าเวอร์ชั่นหลังคาปกติ แล้วก็ที่สุดๆ เลยก็คือ ระบบช่วงล่างที่คนชื่นชอบความนุ่มนวลต้องส่ายหน้า โดยเฉพาะเมื่อเจอสภาพถนนแย่ๆ ซึ่งต่อให้ปรับนุ่มสุดๆ มันก็ยังไม่เป็นมิตรต่อทุกคนในห้องโดยสารอยู่ดี

     แต่ก็นั่นแหละครับ คือ “เสน่ห์” ที่หลายคนหลงใหล และสนุกทุกครั้งเมื่อได้ลองขับ เพราะเราเองก็รู้สึกแถมจะยิ่งรู้สึกมากขึ้นไปอีกขั้น เมื่อมีโอกาสได้บดคันเร่งในสนาม หรือบนถนนสายรองที่ลาดยางเรียบๆ ซึ่งคุณจะสัมผัสได้ถึงความสามารถในการยึดเกาะถนนอันแนบแน่น เพื่อสร้างเสถียรภาพ จนกลายเป็นการหนุนส่งระดับความมั่นใจให้กระทำการเติม เติม เติม แล้วก็เติมคันเร่งลงไป เพื่อเรียก “แรงดึง” หนักๆ ที่กดให้คุณนั่งจมอยู่กับเบาะนั่งทรงสปอร์ต ไม่เว้นแม้แต่ตอนพุ่งตัวเข้าหาโค้ง เพราะเราเองก็ทำแบบนั้นเช่นกันในทุกครั้งที่มีโอกาส และยิ่งถ้าเป็นเวอร์ชั่นเปิดประทุน Convertible ด้วยล่ะก็ บอกเลยว่า “ไม่ธรรมดา” เพราะในบ้านเราคงจะมียนตรกรรมสมรรถนะสูงไม่มากนักที่สามารถเอื้ออำนวยให้คุณ “ซัด” แบบสะใจ ไปพร้อมๆ กับการไร้สิ่งใดปกคลุมพื้นที่เหนือศรีษะ และ MINI John Cooper Works Convertible คือ หนึ่งในตองอูที่สามารถตอบโจทย์อะดรีนาลินได้ดี แถมดีมากๆ เนื่องจากเราเองก็ทำมาแล้วในทุกๆ ครั้งที่มีโอกาสเช่นกัน

     โดยที่ต้องบอกว่า “ทุกครั้งที่มีโอกาส” ก็เพราะในความคิดเห็นของเรา มองว่าเจ้านี่เกิดมากับบุคคลิกการขับขี่ที่ต้องบอกว่าเน้นความสปอร์ตแน่นๆ ซึ่ง On Track หรือ On Perfect Road จะทำให้คุณขับขี่อย่างเมามันส์ได้โดยไม่สร้างภาระให้สุขภาพ หากตรงกันข้าม เจ้านี่มันอาจจะทำให้คุณ “เหนื่อย” แทบลากเลือดเอาง่ายๆ  เว้นแต่คุณจะ “คลั่งไคล้” เอามากๆ จนกระทั่ง “คุ้นเคย” และ “ยอมรับ” ได้ในตัวตนของ MINI John Cooper Works Convertible

     เพราะนี่คือ ยนตรกรรมที่มีบุคลิกไม่มีใครเหมือน แล้วก็ไม่คิดจะเหมือนใคร ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้เป็นเจ้าของนั่นแหละครับ ที่ต้องปรับตัวเข้าหา ไม่งั้นก็เบือนหน้าไปหาแบรนด์อื่น รุ่นอื่นได้เลย ไม่ต้องไปลองขับให้เสียเวลา

Specification

MINI John Cooper Works Convertible

Price                      :              3,468,000 BHT

Engine                   :              1,998 CC / 4 Cylinder / 16 Valve  / MINI TwinPower Turbo

231 hp @ 5,200-6,200 rpm / 320 Nm @ 1,480-4,800 rpm 

Transmission        :              8A/T / Front Wheel Drive

Performance         :              0 – 100 Km/h @ 6.5 Sec / Top Speed @ 246 Km/h

Weight                   :              N/A

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Gyu Gyu Tei

30 พ.ค. 2565

Yoo En Care

30 พ.ค. 2565

Fastship

30 พ.ค. 2565

Esteem

30 พ.ค. 2565

Powered by MakeWebEasy.com